ลองใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดตา แล้วจะรู้ว่ายากเพียงใดที่จะทำงาน พระเนตรขวาของในหลวง ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้..








พระเนตรขวาของในหลวง ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้..

ข่าวพาดหัวหนังสือ พิมพ์ใหญ่ๆ ซึ่งตีพิมพ์จำหน่ายใน 
กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ มีเนื้อข่าว 
ด่วนจากวิทยุ B.B.C. เมื่อ เวลา ๑๓.๐๐ น. แจ้งว่า 
" สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประสบ อุบัติ 
เหตุด้วยรถยนต์ ณที่แห่งหนึ่งใกล้ๆ เมืองโลซานน์ เมื่อ 
ค่ำวัน ที่ ๓ เดือนนี้ พระอาการค่อนข้างสาหัส " 
และหลังจากนั้นเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม มีรายงานข่าวจากการ 
ออกประกาศล่า ที่สุดของสถานีวิทยุบี.บี.ซี. เวลา ๑๔.๔๗ น. 
แจ้งว่า 

" พระอาการสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ้นอันตรายแล้ว
อย่างไรก็ดีราชเลขานุการแถลงว่าพระเนตรข้าง 
ขวาถูกเศษกระจกเข้าและยังไม่ทราบว่าอีกหลายวันสมเด็จ 
พระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงใช้พระเนตรข้างขวาได้หรือ ไม่ " 
หนังสือพิมพ์สยามนิกรฉบับวัน ที่ ๘ ตุลาคม ๒๔๙๑ 
ลงพาดข่าวขนาดใหญ่ว่า 
" อาจ เสียพระนตร ใกล้พระเนตรขวาสาหัสที่สุด " 
หลังจากนั้นพระองค์ท่านทรง มีพระอาการแทรกซ้อนเรื่อง 
พระเนตรขวา ซึ่งแพทย์ถวายการรักษาอีกหลายครั้งก็ ไม่ 
ดีขึ้นจึงได้ถวายการแนะนำให้พระองค์ทรงพระเนตร 
ปลอมในที่ สุด 








"... อาจจะเป็นเพราะว่าพระองค์ไม่อยากให้คนไทยเป็น 
ห่วงและวิตกใน พระองค์มากและบ้านเมืองขณะนั้นก็ไม่สู้ 
จะเรียบร้อยนักทั้งปัญหาการเมืองใน ประเทศเองก็มาก 
เหมือนกันทรงเก็บความทุกข์ส่วนพระองค์ไว้ จากนั้นก็ 
ทรง ใช้พระเนตรเพียงข้างเดียวทรงศึกษาค้นคว้า อ่าน 
หนังสือต่างๆมากมาย เพื่อทรง งานของบ้านเมือง บำบัด 
ทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรของพระองค์มาตลอดระยะ เวลา 
60 ปี "

จากหนังสือ " บันทึกของพ่อ " 
ลองใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดตา แล้วจะรู้ว่ายากเพียงใดที่จะทำงาน

นั่นคือความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของในหลวง 
เพื่อราษฎรที่รักยิ่งของพระองค์


ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา

http://www.share-si.com/2016/10/blog-post_408.html
Previous
Next Post »